1.ในการจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยท่านต้องศึกษาในเรื่องใดบ้าง
~ ครูกับแด็กต้องมีการวางแผนกัน คิดร่วมกัน ทำด้วยกัน ซึ่งต้องเป็นบรรยากาศที่มีลักษณะที่ร่วมมือกัน การวางแผนนั้นก็จะมีการวางแผนระยะยาว เพื่อที่จะวางกรอบความคิดกว้างๆ และการวางแผนระยะสั้นโดยที่ครูและเด็กใช้ความคิดพูดคุยปรึกษากันเพื่อหารายละเอียดและขั้นตอนในการทำกิจกรรม
~ นอกจากนี้การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยก็จะมี
~ การฟังและการพูด ก็คือ เด็กจะได้ยินเสียงพูด แม้ว่าเด็กยังพูดไม่ได้ เด็กก็จะเกิดการเรียนรู้ในการพูด นอกจากนี้แล้ว การพูดของพ่อแม่ต้องให้เหมาะสมกับเด็กด้วย นอกจากการพูดแล้วก็ยังบูรณาการกับการฟัง เพราะเวลาเราพด เด็กจะได้ยินได้ฟังไปด้วย ยิ่งได้ฟังมากก็ทำให้เรียนรู้ได้มาก
~ การอ่านและการเขียน การอ่านหนังสือให้เด็กฟังทุกๆวันเป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นสำหรับเด็กเพื่อที่จะพัฒนาภาษาเขียน เนื้อหาที่อ่านนั้นต้องเป็นเรื่องใกล้ตัวเด็กเพื่อที่จะเป็นประโยชน์แก่เด็กเอง เพราะว่าเด็กจะมีประสบการณ์เดิมของเขาอยู่แล้ว
2.การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยมีวัตถุประสงค์อะไร
· เพื่อต้องให้เด็กเข้าใจในภาษาต่างๆที่ได้รับรู้เข้ามา
· เพื่อต้องการให้เด็กได้มีโอกาสเรียนรู้ภาษาที่ถูกต้องอย่างชัดเจน
· เพื่อต้องการให้เด็กสามารถสื่อสารกับผู้ได้อย่างเข้าใจ
3.หลักการจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยมีอะไรบ้าง
· ภาษาต้องประกอบด้วยทักษะ 4ด้านคือ การฟัง การพูด การอ่าน การเขียน
· ครูต้องมีบทบาทที่ดีและเข้าใจถึงความแตกต่างของเด็กแต่ละคนในการใช้ภาษา
· เด็กที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมากๆ จะมีโอกาสใช้ภาษาได้ดีขึ้น
4.ท่านมีแนวทางในการให้ความรู้กับผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาได้อย่างไร
1. ให้ผู้ปกครองเล่านิทานให้เด็กฟังทุกๆวัน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เพื่อได้สังเกตทักษะการฟังของเด็ก
2. ในแต่ละวันผู้ปกครองควรฝึกภาษาที่สองกับเด็ก โดยใช้สื่อที่เป็นบัตรคำ เพื่อได้ฝึกทักษะการอ่านเขียนของเด็ก
3. ผู้ปกครองควรร่วมกิจกรรมกับเด็กบ่อยๆ เพื่อได้สร้างความสัมพันธ์กันมากขึ้น เด็กจะได้มีกำลังใจที่จะทำกิจกรรมนั้นๆ
4. ร่วมร้องเพลงกับเด็ก เพื่อฝึกทักษะการพูด การฟัง การอ่าน แต่เพลงนั้นต้องเป็นเพลงสั้นๆ ได้ใจความ เช่น เพลงที่เป็นคำคล้องจอง เพลง เพลงลูกเป็ด5ตัว
5.ให้ท่านเลือกกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาที่ท่านชอบที่สุดพร้อมให้เหตุผล ชื่อ วัตถุประสงค์ กิจกรรม ประเมินผล
~ กิจกรรม คือ เอะ เอะ เสียงอะไรหว่า เสียงประกาศ
~ วัตถุประสงค์
1. เพื่อต้องการให้เด็กได้เข้าใจภาษาที่มีหลายรูปแบบ
2. เพื่อต้องการให้เด็กได้ทักษะการฟังจากเสียงที่ได้ยิน
3. เพื่อต้องการให้เด็กได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมกับผู้อื่น
~ กิจกรรม
นำเสียงประกาศต่างๆมาให้เด็กฟัง เช่น น้องอนุบาล2กลับได้ค่ะ, น้องอนุบาล2นำชุดว่ายน้ำมาโรงเรียนด้วยค่ะ เป็นต้น
หลังจากนั้น เปิดให้เด็กฟังที่ละประกาศ แล้วตั้งคำถามถาม
เชิญชวนให้เด็กมีส่วนร่วมในกิจกรรมโดยให้พูดเสียงประกาศตามจินตนาการของเด็ก
~ ประเมินผล
จากการได้ทำกิจกรรม เด็กให้ความร่วมมือกันดีมาก ตั้งใจฟัง และตอบคำถามกัน แต่เด็กบ้างคนก็จะไม่พูดอะไรบ้างคนก็ไม่ร่วมกิจกรรม แต่ส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือกันดี เด็กๆมีความคิดตามจินตนาการของตัวเอง และทักษะการฟังพูดก็ดี
~ เหตุผล
เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ไม่น่าเบื่อ นำเสียงต่างๆมาให้เด็กฟังเด็กก็จะเกิดความสงสัย อยากรู้อยากเห็น แต่เสียงที่นำมานั้นต้องเหมาะสม ชัดเจนกับเด็ก
วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553
ข้อสอบปลายภาค จงตอบคำถามต่อไปนี้ วิชาการจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย (วันที่3/03/2553)
วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2553
บันทึกครั้งที่10(ครั้งสุดท้าย)
จากการที่ได้เรียนวิชานี้ได้รับความรู้มากมายและได้ปฏิบัติงานจริงสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีมาก
เพราะว่าถ้าเราไม่ลงงานจริง จะไม่รู้เลยว่า เด็กอนุบาลคิดอย่างไรอยากเรียนรู้สิ่งใดมากกว่า
จากที่ได้ไปจัดกิจกรรมที่โรงเรียนสาธิตครั้งนั้นทำให้รู้ว่าเด็กจะชอบให้เล่านิทานมากกว่า
ซึ่งกิจกรรมเรานำสิ่งที่แปลกใหม่ก็จริงแต่มันไม่ค่อดึงดูดเด็ฏเท่าไรหนัก เพราะว่าเด็กจะชอบภาพสีสวยๆ ซึ่งจะดีมากถ้ามีภาพประกอบกับเสียง
นอกจากนั้น ยังได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆและรู้จักนำสื่อการเรียนรู้ในวิชานี้เข้าไปทรอดแทรกในเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี และสามารถเข้าไปเรียนรู้เนื้อหาในบล็อกของตัวเองได้
เพราะว่าถ้าเราไม่ลงงานจริง จะไม่รู้เลยว่า เด็กอนุบาลคิดอย่างไรอยากเรียนรู้สิ่งใดมากกว่า
จากที่ได้ไปจัดกิจกรรมที่โรงเรียนสาธิตครั้งนั้นทำให้รู้ว่าเด็กจะชอบให้เล่านิทานมากกว่า
ซึ่งกิจกรรมเรานำสิ่งที่แปลกใหม่ก็จริงแต่มันไม่ค่อดึงดูดเด็ฏเท่าไรหนัก เพราะว่าเด็กจะชอบภาพสีสวยๆ ซึ่งจะดีมากถ้ามีภาพประกอบกับเสียง
นอกจากนั้น ยังได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆและรู้จักนำสื่อการเรียนรู้ในวิชานี้เข้าไปทรอดแทรกในเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี และสามารถเข้าไปเรียนรู้เนื้อหาในบล็อกของตัวเองได้
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
บันทึกครั้งที่9
- อาจารย์ให้ทุกคนเล่านิทานเรื่องแม่ไก่สีแดง คนละ 1 ประโยค
- ส่งงาน
- อาจารย์วิเคราะห์งาน ว่า ต้องหานิทานที่ใกล้ตัวเด็ก เด็กเคยเห็น
- อาจารย์ให้นักศึกษาทำมายแม้พในโปรแกรมพิวเตอร์ ในเรื่องที่หามา แล้วเอาลงบล็อก
- ให้หาวิจัยแล้วลิงห์ไปที่บล็อกของตัวเอง
- ลิงแนวการสอนของวิชาการจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กเก็บไว้ในบล็อก
- จัดแต่งบล็อกให้เรียบร้อย
งาน
อาจารย์สั่งงาน ให้ทำมายแม็พ เรื่องอะไรก็ได้ แล้วหานิทานและเพลงที่สอดคล้องกับมายแม็พ
อ่านนิทานแม่ไก่แดง เป็นกลุ่ม
อ่านนิทานแม่ไก่แดง เป็นกลุ่ม
วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
บันทึกครั้งที่8
วันนี้ย้ายมาเรียนที่ห้อง 236 เนื่องจาก 238
มีการอบรมอาจารย์พูดเกี่ยวกับภาษา ได้แก่ ฟัง พูด อ่าน เขียนและการจัดสภาพแวดล้อม
ดังนี้1.จัดแล้วเต็มไปด้วยภาษา เช่น ชื่อมุม ปฏิทิน สมาชิกในห้อง
สิ่งที่ตอบสนองแก่เด็กให้เด็กได้เห็นให้เด็กเกิดการเรียนรู้
2.ผ่านตัวอย่าง ครูต้องสาธิตให้เด็กดู
3.ประสบการณ์ที่เหมาะสมกับวัย เช่น เปิดเทปให้เด็กฟัง โดยวางที่มุมนิทาน
4.เรียนรู้โดยการรับผิดชอบด้วยกัน
5.ได้มีโอกาสลงมือปฏิบัติเกิดความกระตือรือร้น
6.เปิดโอกาสให้เด็กได้ทดลองจากนั้นเพื่อนก็นำเสนองานที่ไปโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมกลุ่มที่-เล่านิทานจากภาพ-เล่านิทานให้เด็กรู้จักพยัญชนะต้น สระ-การปฏิบัติตามคำสั่งบรรยากาศในห้องเรียน
มีการอบรมอาจารย์พูดเกี่ยวกับภาษา ได้แก่ ฟัง พูด อ่าน เขียนและการจัดสภาพแวดล้อม
ดังนี้1.จัดแล้วเต็มไปด้วยภาษา เช่น ชื่อมุม ปฏิทิน สมาชิกในห้อง
สิ่งที่ตอบสนองแก่เด็กให้เด็กได้เห็นให้เด็กเกิดการเรียนรู้
2.ผ่านตัวอย่าง ครูต้องสาธิตให้เด็กดู
3.ประสบการณ์ที่เหมาะสมกับวัย เช่น เปิดเทปให้เด็กฟัง โดยวางที่มุมนิทาน
4.เรียนรู้โดยการรับผิดชอบด้วยกัน
5.ได้มีโอกาสลงมือปฏิบัติเกิดความกระตือรือร้น
6.เปิดโอกาสให้เด็กได้ทดลองจากนั้นเพื่อนก็นำเสนองานที่ไปโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมกลุ่มที่-เล่านิทานจากภาพ-เล่านิทานให้เด็กรู้จักพยัญชนะต้น สระ-การปฏิบัติตามคำสั่งบรรยากาศในห้องเรียน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)